เพราะชีวิตขาดหวานไม่ได้? ทำไมเราถึงชอบกินของหวาน ติดน้ำตาล พร้อมทริคกินของหวานอย่างพอดีไม่มีอดของอร่อย

เดิมทีบรรพบุรุษเราน่ะ ชอบรสชาติหวานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ข้อมูลจาก ดอกเตอร์จอร์จ อาร์เมลากอส (Dr.George Armelagos) ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยวิทยาจากอเมริกา กล่าวว่ามนุษย์ยุคเก่าเชื่อกันว่าอาหารที่มีรสหวานหมายถึงความปลอดภัย ส่วนอาหารรสขมหมายถึงของมีพิษ ไม่ควรกิน ดังนั้นการชื่นชอบอาหารรสหวานจึงเป็นสัญชาตญานการเอาตัวรอดหนึ่งของมนุษย์นั่นเอง

เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานเพื่อความอยู่รอด เมื่อร่างกายได้รับความหวาน (หวานที่หมายถึงรสหวานจริงๆ ไม่ใช่ความรัก) สมองจะหลั่งสารที่ชื่อโดปามีนออกมา ทำให้เรารู้สึกมีความสุขเหมือนจุดพลุในหัว แต่ในยุคโบราณความหวานที่ได้รับมีแค่ความหวานธรรมชาติจากผลไม้เท่านั้น ตัดภาพมาปัจจุบัน แหล่งความหวานของเราเป็นน้ำตาลทรายและพวกสารสังเคราะห์ต่างๆที่ให้ความหวานแบบเข้มข้น เมื่อสมองได้เจอรสหวาน(เกินธรรมชาติ)นี้เข้าไป ก็ยิ่งทำให้อยากกินของหวานเพิ่มอีกแบบรัวๆ

อาการรู้สึกความหวานในใจฉันนั้นมันต่ำไป?

อาการโหยหายความหวานแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพจริงๆ กับอีกกลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มที่พบได้บ่อย  คือ กลุ่มอยากจะกินล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นมาผสม ขยายความได้ว่าเป็นสภาวะที่ต้องการของหวานด้วยอารมณ์ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีน้ำตาลต่ำ เพราะเมื่อกินของหวานแล้วทำให้มีความรู้สึกดี โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภาวะเครียดก็ยิ่งไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ส่งผลโดยตรงกับอาการอยากทานของหวานเป็นวงจรไม่จบสิ้น

ข่าวดีคือเราสามารถเปลี่ยนนิสัยการกินตามอารมณ์นี้ได้ด้วยการสร้างพฤติกรรมการกินใหม่ เริ่มต้นจากการกินอาหารตามที่วางแผนไว้ จากงานวิจัยของ European Journal of Social Psychology พบว่าการสร้างนิสัยใหม่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 66 วัน โดยการเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยก่อน จนคุณสามารถทำได้ซ้ำๆ โดยไม่รู้สึกฝืนใจ

ทริคกินของหวานอย่างพอดีไม่มีอดของอร่อย

ไม่ต้องอดแค่ลดก็พอแล้ว

ทำความเข้าใจว่าของหวานกินได้ไม่ต้องหักดิบ ถ้าปกติเรากินของหวานทุกวัน แค่ลดลงมาเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ดูก่อน แรกๆ อาจจะยากแต่ทำไปสักพักสมองจะเริ่มปรับตัวได้และลองเคี้ยวให้ช้าลง ค่อยๆ ลิ้มรสชาติความหวานเพื่อให้สมองรับรู้รสชาตินั้นได้มากขึ้นและอิ่มไวขึ้น หลายคนใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียวก็สามารถฝึกการรับรสของลิ้นให้ชินกับรสชาติที่หวานน้อยกว่าเดิมได้

ลองเปลี่ยนขนมหวานเป็นผลไม้ที่มีรสหวานแทน

น้ำตาลจากผลไม้เป็นน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติซึ่งดีกว่าน้ำตาลขัดขาวอย่างแน่นอน มาฝึกให้ลิ้นรับรู้ความหวานจากอาหารจากธรรมชาติ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปรับการกินหวานที่ดี แถมยังช่วยเรื่องลดน้ำหนักได้เพราะผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่ช่วยให้อิ่มไว ถ่ายคล่อง ช่วงแรกที่ยังจิตไม่แข็งอยากของหวานเมื่อไหร่ให้ลองดื่มนำ้ 1 แก้ว หรือทานของว่าง เช่น อัลมอนด์

เทคนิคกินรวบมื้อรวมใจเป็นหนึ่งเดียว

จัด 1 มื้อแบบอิ่มๆ ปิดจบปัญหาการกินจุกจิกด้วยการกินรวบมื้อไปเลย จับขนม ผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่มีความหวานมากินพร้อมกับอาหารมื้อหลักที่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์และผักอย่างเพียงพอ ซึ่งการกินรวบกับอาหารมื้อหลักนั้นจะช่วยซึมซับปริมาณกลูโคสลงได้ ทำให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูง ลดอาการหิวบ่อยได้

หาวิธีผ่อนคลายอารมณ์แทนการกิน

ทุกวันนี้การใช้ชีวิตประจำวันของเราจะต้องพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเครียดเบื่อหน่ายพอเกิดความรู้สึกพวกนี้มากๆ ก็ยิ่งกระตุ้นปลุกเร้าอารมณ์ให้ปั่นป่วน ส่งผลให้เราอยากหาอะไรที่มาฮีลใจให้กลับมาแฮปปี้ และสิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้เราบรรเทาความหมองหม่นได้ก็คือการหาของอร่อยใส่เข้าปากเพื่อทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขจากการกิน พอทำบ่อยเข้าเราก็ติดเป็นนิสัยกินจุบจิบแม้ไม่ได้หิว จนอาจจะลามเป็นการกินจนควบคุมตัวเองไม่ได้

Recommended Posts

โค้ชสุขภาพ ผู้ช่วยลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า

โค้ชสุขภาพ (Health Coach) ผู้ช่วยดูแลการลดน้ำหนักและปรับเปลี่ยนสุขภาพให้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่ดี หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก […]

กินยาลดความอ้วนแล้วโยโย่ จริงไหม? เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้โยโย่หลังการใช้ยาลดความอ้วน

ลดน้ำหนักด้วยการใช้ยา กินยาลดความอ้วนแล้วโยโย่เป็นอีกหนึ่งวงจรการลดน้ำหนักแบบไม่รู้จบที่พบได้ค่อนข้างบ่อย หลายคนอาจเริ่มลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพด้วยการควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย แต่ในทางกลับกันมีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกทางลัดและลดน้ำหนักด้วยการใช้ยาลดความอ้วนเพื่อลดน้ำหนักตัวลงอย่างรวดเร็วจนในท้ายที่สุดก็พบกับภาวะโยโย่เอฟเฟกต์เมื่อหยุดใช้ยา น้ำหนักพุ่งกลับมาแบบไม่ทันตั้งตัวพร้อมสารพัดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ […]