ไขมันทรานส์ คือ ไขมันชนิดหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้ เพราะไขมันทรานส์นั้นจัดอยู่ในกลุ่มกรดไขมันชนิดอิ่มตัว ที่หากร่างกายได้รับในปริมาณมากเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังชนิดต่าง ๆ ได้ ไขมันทรานส์ คืออะไร? ไขมันทรานส์อันตรายต่อร่างกายจริงไหม ไขมันทรานส์ พบในอาหารประเภทใด? บทความนี้รวมทุกเรื่องควรรู้เกี่ยวกับไขมันทรานส์มาฝากกัน 

ไขมันทรานส์ (Trans fat) คืออะไร

ไขมันทรานส์ (Trans Fat) คือ ไขมันชนิดหนึ่งซึ่งจัดเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) ที่ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพ ไขมันทรานส์สามารถพบได้น้อยมากในธรรมชาติ และพบได้มากที่สุดในอุตสาหกรรมอาหาร โดยผู้ผลิตจะสร้างไขมันทรานส์ขึ้นมาด้วยการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial Hydrogenation) ลงไปในน้ำมันพืช หรือไขมันพืช จนทำให้เกิดกระบวนการไฮโดรจีเนชั่น (hydrogenation) เพื่อให้น้ำมันพืชหรือไขมันพืชเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็งหรือกึ่งเหลวกึ่งแข็งที่อุณหภูมิห้อง สามารถเก็บไว้ได้นานโดยที่ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน และช่วยให้อาหารมีรสชาติที่อร่อย ถูกปากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

ไขมันทรานส์ มีกี่ประเภท

ไขมันทรานส์ สามารถแบ่งตามแหล่งที่มาได้เป็น 2 ประเภท คือ

  1. ไขมันทรานส์ที่พบได้ในธรรมชาติ เป็นไขมันทรานส์ที่พบได้ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น เนื้อวัว เนื้อแพะ  เนื้อแกะ นมและผลิตภัณฑ์จากนม แต่ก็พบได้ในปริมาณที่น้อยมาก และในปัจจุบันยังไม่มีรายงานชิ้นไหนชี้ว่าไขมันทรานส์ชนิดนี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
  2. ไขมันทรานส์ที่ใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรม เป็นไขมันทรานส์ ที่ผลิตจากน้ำมันพืช หรือไขมันพืช ด้วยการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial Hydrogenation) เพื่อทำให้น้ำมันพืชกลายเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง และสามารถจัดเก็บรักษาน้ำมันได้ง่าย เก็บไว้ได้นานโดยไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ซึ่งไขมันทรานส์ชนิดที่มีการเติมไฮโดรเจนบางส่วนนี้ เป็นไขมันที่มีโทษและเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเรื้อรังชนิดร้ายแรง หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป

ไขมันทรานส์ พบในอาหารประเภทใด

อาหารที่มีไขมันทรานส์แฝงอยู่ด้วยนั้น มีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิด เช่น

  • ขนมปัง ขนมอบ ขนมเบเกอรี่ ที่มีส่วนผสมของมาร์การีน เนยขาว วิปปิงครีม นมข้นหวาน เช่น เค้ก โดนัท คุกกี้ พาย พัฟ เวเฟอร์ ป็อบคอร์นสำเร็จรูป ฯลฯ
  • เครื่องดื่มบางชนิดที่ส่วนผสมของครีมเทียม วิปปิงครีม นมข้นหวาน เช่น กาแฟ 3in1 ชานมไข่มุก ฯลฯ
  • อาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น ไก่ทอด เฟรนซ์ฟราย แฮมเบอร์เกอร์ ฯลฯ

วิธีสังเกตอาหารที่มีไขมันทรานส์

วิธีสังเกตว่าอาหารชิ้นไหนเป็นอาหารที่มีไขมันทรานส์หรือไม่ คือ การอ่านฉลากโภชนาการอาหารโดยละเอียด ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ระบุคำว่า Partially Hydrogenated หรือ Hydrogenated Oil และเลือกซื้ออาหารที่ระบุคำว่า Fully Hydrogenation, NON Trans Fat หรือ Trans Fat Free หรือทางที่ดีที่สุดคือลดปริมาณการกินอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป เน้นกินอาหารจากธรรมชาติอย่างเช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผัก ผลไม้ และธัญพืช เป็นหลัก

ผลเสียของการบริโภคไขมันทรานส์

การกินอาหารที่มีไขมันทรานส์มากเกินไป หรือกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สร้างผลเสียต่อร่างกายได้ดังนี้

  • ทำให้ไขมันชนิดดี (HDL Cholesterol) ในร่างกายลดลง
  • เพิ่มปริมาณไขมันชนิดไม่ดี (LDL Cholesterol) ซึ่งเป็นไขมันที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

เมื่อมีไขมันชนิดไม่ดีสูงขึ้นจะทำให้เกิดคราบไขมันเกาะติดกับผนังหลอดเลือด จนทำให้เกิดปัญหาเส้นเลือดอุดตัน เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดและหัวใจ รวมถึงโรคเรื้อรังอื่น ๆ

โรคที่เกิดจากไขมันทรานส์มีอะไรบ้าง

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคไขมันในเลือดสูง
  • โรคเบาหวาน
  • โรคอ้วน
  • โรคความดันโลหิตสูง 
  • โรคมะเร็ง 
  • โรคอัลไซเมอร์
  • โรคนิ่วในถุงน้ำดี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไขมันทรานส์

ร่างกายควรได้รับไขมันทรานส์ร้อยละเท่าใดของพลังงานทั้งหมด

สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (American Heart Association:AHA) แนะนำว่าร่างกายควรได้รับไขมันทรานส์ไม่เกินร้อยละ 1 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน ซึ่งระดับค่าพลังงานต่อวันโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,800-2,000 กิโลแคลอรี แปลว่าเราสามารถกินไขมันทรานส์ได้ไม่เกิน 18-20 กิโลแคลอรี หรือประมาณ 2 กรัม/วัน (ไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี

ไขมันทรานส์ ส่งผลกระทบต่อระบบใดในร่างกายมากที่สุด

อาจพูดได้ว่าไขมันทรานส์ส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดมากที่สุด เพราะไขมันทรานส์ส่งผลให้ระดับไขมันดี (HDL) ลดลง และเพิ่มปริมาณไขมันชนิดไม่ดี (LDL) อย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสการเกิดคราบไขมันเกาะในผนังหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบและอุดตัน ส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ภาวะหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในหัวใจและสมองตีบ แตก หรือตัน

ไขมันทรานส์มีประโยชน์ไหม

ไขมันทรานส์หรืออาหารที่มีไขมันทรานส์ เป็นกลุ่มอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันทรานส์ หรือจำกัดปริมาณการกินให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

Conclusion

ไขมันทรานส์ คืออะไร? ไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัว ที่พบได้ทั้งในธรรมชาติ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ นมและผลิตภัณฑ์จากนม แต่มีปริมาณน้อยมาก และยังไม่มีรายงานว่าเป็นผลเสียต่อร่างกาย แต่ไขมันทรานส์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารนั้นพบได้มากที่สุด ซึ่งเป็นไขมันที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและทำให้เกิดโรคเรื้อรังอื่น ๆ ตามมา อาหารที่มีไขมันทรานส์ที่เราควรหลีกเลี่ยงได้แก่ ขนมปัง เบเกอรี่ เครื่องดื่ม และอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่มีส่วนผสมของครีมเทียม เนยขาว มาร์การีน ครีมเทียมข้นหวาน ฯลฯ เพื่อสุขภาพที่ดีควรจำกัดปริมาณการบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์ หรือไขมันชนิดอื่น ๆ ในปริมาณที่พอเหมาะ รวมถึงเลือกกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง

สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และปรับระดับโภชนาการให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน จะเลือกวิธีใดที่เหมาะสมกับตนเอง คลิกที่นี่ เพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Healthy and Me ช่วยดูแลและปรับโภชนาการเพื่อการลดน้ำหนักที่เหมาะสมยิ่งกว่า ให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรง มีหุ่นในฝันได้ไวยิ่งขึ้น

ติดตามทริกลดหุ่นหลากหลายแบบ เหมาะกับทุกสไตล์ในแบบชิล ๆ เพียงแอดไลน์ @healthyandme https://lin.ee/VQ4Qx18

References

Recommended Posts

โค้ชสุขภาพ ผู้ช่วยลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า

โค้ชสุขภาพ (Health Coach) ผู้ช่วยดูแลการลดน้ำหนักและปรับเปลี่ยนสุขภาพให้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่ดี หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก […]

กินยาลดความอ้วนแล้วโยโย่ จริงไหม? เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้โยโย่หลังการใช้ยาลดความอ้วน

ลดน้ำหนักด้วยการใช้ยา กินยาลดความอ้วนแล้วโยโย่เป็นอีกหนึ่งวงจรการลดน้ำหนักแบบไม่รู้จบที่พบได้ค่อนข้างบ่อย หลายคนอาจเริ่มลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพด้วยการควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย แต่ในทางกลับกันมีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกทางลัดและลดน้ำหนักด้วยการใช้ยาลดความอ้วนเพื่อลดน้ำหนักตัวลงอย่างรวดเร็วจนในท้ายที่สุดก็พบกับภาวะโยโย่เอฟเฟกต์เมื่อหยุดใช้ยา น้ำหนักพุ่งกลับมาแบบไม่ทันตั้งตัวพร้อมสารพัดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ […]